ถอดความต้นฉบับ Credit https://school.stockcharts.com
ดาวน์โหลด เอกสารแปล > http://www.honyakutrader.com/courses/wyckoff-theory/lesson/intro-wyckoff-theory-method-8-1/
***ถ้ากด Link แล้วดูไม่ได้ให้เข้าไปกด Enroll ที่บทเรียนก่อน
http://www.honyakutrader.com/courses/wyckoff-theory/
Richard D. Wyckoff
Cr. Picture from Internet
โปรดจำไว้ว่าความสำคัญอยู่ที่กฏของเหตุและผล โดยเปรียบเทียบช่วงเป็นเทรน และสิ่งที่เกิดขึ้นภาย
ใน Trading Range ซึ่งสะท้อนจาก ราคา, Spread, ปริมาณซื้อขาย และระยะเวลา
หลักเหตุและผลของ Wyckoff อธิบายสภาพตลาด 4 ช่วงเวลาสำคัญ
Accumulation ช่วงสะสม และดันราคาลงต่อไม่ได้ เพราะเจ้าเก็บของ
Mark Up ดันราคาเพิ่มสูงไปยังราคาเป้าหมาย
Distribution ขายที่ราคาเป้าหมายจนสำเร็จ
Mark Down เทขาย จนรายย่อยไม่สนใจสินค้านั้น เพื่อให้ราคาต้นทุนต่ำลง
รายใหญ่เริ่มสะสม(1) อีกครั้ง และเริ่มเกิดวัฏจักรซ้ำ (1-4) วนไป
5 ขั้นตอนการใช้งาน Wyckoff Method
ขั้นตอนที่หนึ่ง
วิเคราะห์แนวโน้มให้ได้ก่อน ราคาจะไปทางไหน?
คุณต้องทะเลาะกับตัวเองให้จบก่อนว่า แนวโน้มที่เห็นเป็นแนวโน้มไปทางไหน และมีแนวโน้มว่าจะมีทิศทางไปทางไหน ระหว่าง Supply และ Demand
วิเคราะห์ราคา ณ ปัจจุบันว่าอยู่ส่วนไหนของแนวโน้ม(เทรน) และคาดการณ์แนวโน้มตลาดที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
ตลาดเกิดการสะสมราคาวิ่งในกรอบหรือวิ่งเป็นเทรน?
การวิเคราะห์โครงสร้างตลาด อุปทาน(Supply ความต้องการขาย) และอุปสงค์(Demand ความต้องการซื้อ) บ่งบอกถึงทิศทางที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หรือไม่?
การประเมินนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะอยู่ในตลาดแบบไหน? ถือยาว? ถือสั้น? เทรนหลัก? เทรนรอง?
(ในเนื้อความมีการกล่าวถึง Chart Point ซึ่งใน Fxไม่มีจึงขอแปลข้ามไปให้สอดคล้องกับ Fx)
ขั้นตอนที่สอง
วิเคราะห์ความแข็งแกร่งของสินทรัพย์ เลือกหุ้นให้สอดคล้องกับแนวโน้ม(เทรน)
สินทรัพย์จะแข็งแกร่งหรือไม่ ขึ้นกับลักษณะการเคลื่อนที่ของราคาในตลาด ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันในแนวโน้มเดิม
ในแนวโน้มขาขึ้น เลือกสินทรัพย์ที่มีลักษณะราคาขาขึ้นที่แข็งแรง
ตัวอย่างเช่น มองหาสินทรัพย์ที่มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นมากกว่าตลาด (เช่น ตลาด index ขึ้น 1% แต่หุ้นตัวนั้นเติบโต 5% เป็นต้น)
ช่วงตลาดขาขึ้น และช่วงย่อ(reactions) ก็มีการย่อแบบค่อยๆ ลง ไม่กระชากลงอย่างรุนแรงจนแสดงถึงความอ่อนแรงในเทรน
ในช่วงขาลง ให้ทำตรงกันข้าม – เลือกหุ้นที่อ่อนแอกว่าตลาด
หากคุณไม่แน่ใจในการตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์นั้น ให้มองข้ามไปหาตัวอื่นแทน
ใช้แผนภูมิแท่งของหุ้นแต่ละตัวเพื่อเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
ขั้นตอนที่สาม
มองหาทรัพย์สินที่มี "เหตุผล" ตรงกับความต้องการ
การที่เราจะเข้าออเดอร์เราจำเป็นต้องมีเหตุผลเพียงพอในการตัดสินใจเข้าออเดอร์เพื่อให้ผลคุ้มค่าความเสี่ยง
ในกฎพื้นฐานของ Wyckoff เรื่อง "สาเหตุและผลกระทบ"
องค์ประกอบที่สำคัญของการเลือกและการจัดการของ Wyckoff คือวิธีการเฉพาะของเขา ในการระบุราคาเป้าหมายโดยใช้การคาดการณ์แบบจุดและตัวเลข (P&F) สำหรับการเทรดทั้งจุดเข้าซื้อและจุดขาย
ในกฎพื้นฐานของ Wyckoff เรื่อง "สาเหตุและผลกระทบ"
การนับ P&F แนวนอนภายในช่วงการซื้อขายแสดงถึงสาเหตุ (Fx ไม่มี)
การเคลื่อนที่ราคาในช่วงกรอบราคาแสดงถึง "ผลกระทบ"
ดังนั้นหากคุณวางแผนที่จะเข้าซื้อ
เลือกหุ้นที่อยู่ระหว่างการสะสม Accumulation หรือการสะสมซ้ำ Re-Accumulation และซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการเข้าซื้อ
ขั้นตอนที่สี่
หาจุดเข้าในเวลาที่ดีที่สุดที่ราคาพร้อมจะเกิดการสร้างแนวโน้มหลัก ซึ่งเป็นจุดเข้าที่มีทั้งราคาดีและมีปริมาณการซื้อขายที่มากด้วย ทยอยเข้าในจุดทดสอบการซื้อ(ST)
กำหนดความพร้อมของหุ้นที่จะเคลื่อนไหว
ใช้การทดสอบเก้าแบบสำหรับการซื้อหรือขาย (ดูคำอธิบายใน Schematic ในบทถัดไป)
ขั้นตอนที่ห้า
จังหวะที่คุณเข้าซื้อขายคือเวลาที่เหมาะสมโดยวิเคราะห์หุ้นตัวนั้นเปรียบเทียบกับตลาดที่มีความสัมพันธ์กัน
ตัวอย่างเช่น ควรเปรียบเทียบราคาหุ้นที่สนใจกับ S&P 500 Index กับ Wyckoff ทำให้สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่สนใจนั้น เพื่อสร้างจุดเข้าที่ดีได้
Wyckoff ใช้ได้ผลดีกว่ากับสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวร่วมกับตลาดทั่วไป หรือดัชนี และในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แม้ไม่มีความสัมพันธ์ฯ ก็ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน
แม้ Wyckoff method จะเป็นกฏที่เก่าแก่มานานนับร้อยปี แต่ Wyckoff ก็ยังคงใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
Wyckoff คือชุดความรู้ที่นักลงทุนตัดสินใจด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการวิเคราะห์ตลาด
ทุกคนควรตระหนักถึงความเสี่ยงเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง
#HonyakuTrader
#นักแปลระบบเทรด